อีเว้นท์ออกาไนเซอร์ งานยอดฮิตของคนรุ่นใหม่... อาจจะเป็นเพราะเนื้องานที่ดูสนุก ท้าทาย และไม่ต้องจำเจอยู่แต่ในออฟฟิส ได้คิด ได้ทำ ได้เป็นทีมงานเบื้องหลัง ได้ห้อยป้าย “Staff - All Area” ดูเท่ห์จะตาย... แต่ใครเล่าจะรู้ความจริง...ว่าชีวิตคนรุ่นใหม่หลังได้สัมผัสงานออกาไนเซอร์แล้วจะรู้สึกเหมือนเดิมหรือไม่???? วันนี้เราทุกคนจะได้รู้กัน....

ปิยะมล (น้องมล) Graphic Designer
น้องใหม่มาแรง อนาคตไกล ดีกรี ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มทำงานกับ DK มา 10 เดือนแล้ว

เรืองกิจ (น้องเก่งกีร่า) Creative
ผู้สร้างสรรค์งานได้บรรเจิด...เพราะเธอคือ “เก่งกีร่า” อดีตประธานฝ่ายศิลป์ฯ สโมสรนิสิต เด็กกิจกรรมที่ไม่เคยทิ้งการเรียน ดีกรี ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มทำงานกับ DK มาแล้ว 5 เดือน

คำถามที่ 1: ทำไมถึงอยากมาทำงานในสายออกาไนเซอร์ ทั้งที่สิ่งที่เรียนจบมาดูไม่ใช่???

น้องมล: มันเริ่มตอนที่มลได้ฝึกงานกับบริษัทออกแบบเฟอร์นิเจอร์เล็กๆแห่งหนึ่งค่ะ และได้มีโอกาสดูแลโปรเจคนึงที่ทางบริษัทไปร่วมงานออกแสดงเฟอร์นิเจอร์ ก็ทำทุกอย่างเองตั้งแต่ออกแบบ, เลือกชิ้นงาน, ติดต่อซับพรายเออร์, ติดตั้งและรื้อถอน รวมถึงถือตังค์เพื่อไปจ่ายเงินซับพรายเออร์ตอนเสร็จงาน มันคือความภูมิใจ...เพราะเป็นงานอีเว้นท์งานแรกของเราและมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แต่มันยังมีความรู้ติดค้างในใจว่า...จริงๆแล้วออกาไนเซอร์มืออาชีพเขาทำงานกันยังไง? พอเรียนจบแล้ว เลยอยากลองเข้ามาสัมผัสดูด้วยตัวเองค่ะ

น้องเก่งกีร่า : เก่งเป็นเด็กที่ชอบการทำกิจกรรมมากๆ ตั้งแต่ตอนสมัยเรียน ออกาไนเซอร์จึงเป็นคำตอบของเก่ง เก่งใฝ่ฝันอยากจะทำงานในสายนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเสียอีก แต่ตอนนั้นยังไม่ได้มีโอกาสที่จะทำตามความฝัน พอเรียนจบก็เลยเลือกเดินตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

คำถามที่ 2: จาก Profile ดูเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากๆๆ ทำไมถึงเลือกมาอยู่กับ DK (บริษัทเล็กๆ ที่มีแต่งานใหญ่ๆ...555 <<หัวเราะแก้เขิน>>)

น้องมล: สำหรับที่ DK น่าจะใช่คำว่า “First Impression” ค่ะ...55555 เพราะจริงๆที่ทำงานค่อนข้างไกลจากบ้านมลมากๆ วันแรกที่มาสัมภาษณ์งาน ระหว่างที่นั่งรอ มลเห็นบรรยากาศในออฟฟิตที่ดูอบอุ่น ทุกคนมานั่งกินข้าวคุยเล่นกันอยู่ชั้นล่าง แล้วก็ช่วยกันคิดงานอยู่โต๊ะกลางชั้นสอง ตอนมลเดินผ่านแล้วก็รู้สึกว่าเป็นกันเองดีจัง พอได้สัมภาษณ์กับพี่ไลและพี่นา (ผู้บริหารของ DK) แล้วรู้สึกว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่านเอ็นดูเราเหมือนลูก เหมือนคนในครอบครัว เลยคิดว่าถ้าได้ทำงานที่นี่ก็น่าจะดี

น้องเก่งกีร่า : ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามา เก่งสัมผัสได้ถึงความเป็น “ครอบครัว” ที่อบอุ่นของ DK เก่งคิดว่ามันเป็นอะไรที่หาได้ยากในชีวิตการทำงาน และการได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานกับบริษัทขนาดเล็ก เก่งคิดว่ามันคือโอกาสที่ดีที่เราได้เรียนรู้ทั้งกระบวนการทำงานของงานอีเว้นท์ 1 งาน ซึ่งเป็นสายงานที่เราชอบ...คือตั้งแต่เริ่มต้นคิดงานจนกระทั้งจบงาน เก่งว่าเก่งโชคดีมากที่มาพบกับ DK เก่งว่ามันเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มชีวิตการทำงานของเก่ง

คำถามที่ 3: สิ่งที่คิดไว้...เกี่ยวกับงานออกาไนเซอร์ (Before)

น้องมล: ทุกคนที่ทำงานคือมืออาชีพ มีการเตรียมพร้อมทุกอย่างมาดีตั้งแต่ต้น จนทำให้งานประสบความสำเร็จและจบลงด้วยดี

น้องเก่งกีร่า : จริง ๆ แล้วเก่งก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการทำงานในสายนี้มากนัก เลยทำให้สิ่งที่คิดสิ่งที่ฝันเป็นอะไรที่เหมือนการทำกิจกรรมที่เก่งทำในช่วงที่เรียน คือ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ สนุกบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ท้ายที่สุดคือความภูมิใจ

คำถามที่ 4: สิ่งที่รู้สึก...หลังจากได้สัมผัสจริง (After)

น้องมล: ก็ยังคล้ายๆกับสิ่งที่คิดไว้นะคะ เพียงแต่ว่ามลได้เรียนรู้ถึงกระบวนการทำงานที่ละเอียดมากขึ้น การวางแผนงานที่รัดกุมมากขึ้น ความเป็นมืออาชีพจริงๆ แต่ลืมคิดถึงตัวแปรสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “คน” ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า บริษัทพาทเนอร์ ทุกคนมีความแตกต่างกันเราต้องเรียนรู้และรับมือกับข้อจำกัดเหล่านี้ให้ได้ค่ะ

น้องเก่งกีร่า : มีความกังวลว่าเราจะทำได้ไหม มันมีสิ่งใหม่ๆ ที่เก่งยังไม่เคยรู้ ไม่เคยสัมผัส ไม่เพียงแค่งาน สาย Creative แต่รายละเอียดของงานออกาไนเซอร์ในส่วนอื่น ๆ ที่มีเยอะมาก เลยทำให้มีอะไรอีกหลายอย่างที่เก่งจะต้องฝึกฝนและเรียนรู้ ซึ่งความรู้สึกตอนนี้คือความท้าทายและตื้นเต้นที่จะเรียนรู้

คำถามที่ 5: ประสบการณ์การทำงานที่ทำให้รู้สึกประทับใจ

น้องมล: งานแรกที่ทำเลยค่ะ งานพิธีเปิดทางด่วนสายศรีรัช...(งานใหญ่มากกกกก) ด้วยความที่มลเองยังใหม่มากๆ งานก็เร่ง รวมถึงข้อจำกัดหลายๆด้าน ตอนนั้นกดดันมากกกกกค่ะ แต่ก็มีพี่ๆ คอยช่วยแนะนำ เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทำงานกันเป็นทีม สุดท้ายงานเราจะสำเร็จไปด้วยกันค่ะ

น้องเก่งกีร่า : สำหรับเก่งที่เพิ่งเข้ามาสัมผัสกับการทำงานออกาไนเซอร์ได้ไม่นาน Proposal งานแรกที่เก่งเขียนและขายในฐานะ Creative เรารู้ว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ ทั้งงานเขียนและการฝึกซ้อมก่อนขายงาน แล้วผลลัพท์ก็คือ ลูกค้าซื้อ ดีใจมากครับ เพราะมันคืองานแรกในชีวิตการทำงานของเก่งเลย